เป็นแชมป์ว่ายากแต่การป้องกันแชมป์นั้นอย่างยิ่งกว่า ประโยคนี้ถือว่าใช้ได้จริงกับฟุตบอลทุกยุคสมัย โดยเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นใหม่เริ่มต้นคิกออฟกันแล้ว และนอกเหนือจากคู่เปิดสนามคู่แรกที่เป็นการพบกันของสองทีมใหญ่อย่าง แมนฯยูไนเต็ด กับ ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส แล้วก็แน่นอนว่าอีกไฮไลท์สำคัญเป็นการลงสนามในคู่ดึกของทีมแชมป์เก่า เชลซี พบกับ สวอนซี ซิตี้ แต่ผลการแข่งขันที่ออกมาของคู่นี้ต้องบอกว่าเข้าตำราประโยคที่กล่าวมาตอนต้นนั่นแหละครับ
โดยทีมสิงห์บลู เชลซีทำได้เพียงแค่เสมอกับหงส์ขาว สวอนซีไป 2-2 เก็บได้เพียงหนึ่งคะแนน ทั้งนี้ก่อนหน้าซีซั่นจะเปิดขึ้นสิงห์บลูก็จัดว่าเป็นหนึ่งทีมใหญ่ที่ทำผลงานในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นได้ไม่ดีเอาซะเลย หน่ำซ้ำการเสริมการปรับทีมก็แถมจะไม่มีเลยต่างจากหลายทีมใหญ่ที่หมายมั่นปั้นจะแย่งชิงแชมป์จากพวกเขา ซึ่งมีการดึงเอานักเตะชั้นยอดเข้าทีมมามากมาย โดยรายเดียวที่สิงห์บลูเสริมเข้ามาแบบชัดเจนก็คือในรายของราดาเมล ฟัลเกา หัวหอกทีมชาติโคลอมเบียที่ล้มเหลวในการเล่นพรีเมียร์เมื่อซีซั่นที่แล้วกับทีมปีศาจแดง
สำหรับไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้เป็นทางด้านเชลซี เจ้าบ้านที่ได้ประตูนำ 1-0 ไปก่อนนาทีที่ที่ 22 จากออสการ์ จากนั้นนาทีที่ 29 อังเดร อายิว มาตามตีเสมอให้สวอนซีเป็น 1-1
ก่อนนาทีต่อมาจะเป็นวิลเลี่ยนที่ซัดบอลไปแฉลบ เฟร์นานเดซ เข้าประตูส่งให้เชลซีนำอีกครั้งเป็น 2-1 ครึ่งเวลาหลังนาทีที่ 52 โกมิสโดนกูร์ตัวส์ นายด่านจอมหนึบของเชลซีทำฟาล์วในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ และให้ใบแดงแก่กูร์ตัวส์ โกมิสลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษ ทำให้หงส์ขาวตามตีเสมอได้สำเร็จเป็น 2-2
เวลาที่เหลืออยู่ก็แน่นอนทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หงส์ขาวจึงสามารถแบ่งแต้มออกกลับออกไปได้อย่างชนิดช็อกแฟนบอลเจ้าบ้าน