ก็ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของแท็คติกในการลุยศึกฟุตบอลโลก โซนเอเชียรอบ 12 ทีมสุดท้ายของทีมชาติซาอุดิอาระเบียได้หรือไม่ สำหรับเรื่องของสภาพอากาศในประเทศของพวกเขา ที่ร้อนจัดในระดับ 45 องศาขึ้นไป
เมื่อมีสื่อออกมาตีข่าวเผยคำพูดของ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ นายใหญ่ทัพซาอุฯว่า มั่นอกมั่นใจมากว่าการเลือกสนามที่มีอุณหภูมิระดับ 45 องศานั้น จะช่วยให้ซาอุฯเก็บชัยชนะพร้อมสามคะแนนเหนือทีมช้างศึกได้ในการเจอกันแมทแรกที่จะเตะกันต้นเดือนกันยายน
ทั้งนี้แม้ว่าประเทศไทยจะถือเป็นหนึ่งประเทศในเอเชียที่มีสภาพอากาศที่ร้อน แต่เมื่อเทียบกับบางพื้นที่ในประเทศแถบตะวันออกกลาง ซึ่งอากาศร้อนจัดแล้วก็นับว่ายังมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร การต้องไปเยือนกับซาอุดิอาระเบียจึงถือเป็นหนึ่งปัญหาสำคัญของทัพช้างศึกในทัวร์นาเม้นท์คัดบอลโลกรอบ 12 ทีมสุดท้ายเลย
อย่างไรก็ตามล่าสุด เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือชื่อดังของเศรษฐีน้ำมันได้ออกมากล่าวตอกย้ำถึงความยากลำบาก ที่ทัพช้างศึกจะต้องเผชิญเมื่อบุกไปเยือนพวกเขาผ่านสื่อ “อาริยาดิยาห์” ว่า
“ผมเองเป็นคนเลือกสนามที่จะใช้ในการแข่งขันในแมททีมเหย้าของเรา ผมได้ส่งให้ทีมงานไปสำรวจตรวจสอบสนามเพื่อให้สนามเป็นไปตามข้อกำหนดของฟีฟ่า และตรงกับสเปกที่ผมต้องการด้วย พวกเราทำการบ้านในเรื่องนี้กันอย่างหนัก ไม่เท่านั้นหรอกนะเรายังได้ไปสำรวจสภาพอากาศของทุกๆประเทศ ที่อยู่ร่วมสายเดียวกับเรามาแล้วด้วย”
“เกมแรกที่จะเจอกับไทยผมเลือกใช้สนามใน กรุงริยาด เกมนี้จุผู้ชมได้กว่าหกหมื่นคน มันคือเกมสำคัญเพราะเป็นเกมแรกของเรา แฟนบอลที่อยู่ทั่วประเทศเราย่อมอยากที่จะเข้ามาเชียร์ทีม”
“ส่วนเหตุผลที่สำคัญนอกจากเรื่องความจุแล้วคือ สภาพอากาศที่นี่จะมีอากาศที่ร้อน และแห้งแล้งมากๆในเดือนกันยายน นักเตะไทยจะชินกับสภาพอากาศที่ร้อนชื้น แต่กับที่นี่ผมมั่นใจได้เลยว่าอุณหภูมิ 45-47 องศาจะทำให้นักเตะไทยไม่มีแรงวิ่งเลยล่ะ”